ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ช่วยป้องกันฟันผุ

ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

ฟันผุ มาจากสาเหตุหลัก คือ เชื้อแบคทีเรียย่อยอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน และผลิตกรดที่ไปทำให้เกิดการสลายแร่ธาตุที่เคลือบฟัน หากไม่มีกระบวนการคืนแร่ธาตุที่มากพอ จะทำให้ฟันผุได้ เมื่อฟันผุแล้ว ต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งเสียเวลา เสียเงินค่ารักษา แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจเกิดการติดเชื้อลุกลาม และอาจสูญเสียฟันไปในที่สุด

การจัดการกับโรคฟันผุ ควรเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา ด้วยการ

  1. ทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังมื้ออาหาร  ใช้ไหมขัดฟันกำจัดเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเสริมการคืนแร่ธาตุกลับสู่ผิวฟัน เช่น ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

จัดเป็นเครื่องสำอางซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อใช้ได้เอง โดยพิจารณาจาก

  1. ในสูตรอาจมีส่วนผสมของสารประกอบฟลูออไรด์ได้หลายชนิด เช่น โซเดียม ฟลูออไรด์ โซเดียม
    โมโนฟลูโอโรฟอสเฟต แต่จะต้องมีฟลูออไรด์โดยรวมไม่เกิน 1500 ppm.
  2. ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์มีได้หลายรูปแบบ เช่น เพสท์ เจล ครีม
  3. ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าต้องจดแจ้งให้เรียบร้อยก่อนผลิตหรือนำเข้า
  4. จัดทำฉลากภาษาไทยจะต้องแสดงข้อความอันจำเป็นให้ครบถ้วน

การเลือกซื้อยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

  1. ซื้อยาสีฟันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ภาชนะบรรจุปิดสนิทเรียบร้อย มีฉลากภาษาไทยครบถ้วน สังเกตว่าฉลากระบุเลขที่ใบรับจดแจ้ง ซึ่งแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้จดแจ้งเรียบร้อยแล้ว
  2. อ่านฉลากให้ละเอียด เพราะที่ฉลากยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ต้องระบุชื่อสารประกอบฟลูออไรด์ไว้ด้วย เช่น มีสาร Sodium fluoride (โซเดียม ฟลูออไรด์) มีสาร Sodium monofluorophosphate (โซเดียม โมโนฟลูโอโรฟอสเฟต)
  3. ปฏิบัติตามคำเตือนที่ฉลากอย่างเคร่งครัด คือ เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีควรใช้ยาสีฟันปริมาณเท่า
    เม็ดถั่วเขียว และมีผู้ใหญ่ดูแลขณะแปรงฟัน ในกรณีที่เด็กได้รับสารฟลูออไรด์จากแหล่งอื่นด้วย ให้ปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์

ขอบคุณที่มา : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา